หน้าหนาวช้างจะตกมัน จะเห็นความห้าวหาญดุดัน พอหน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบาง ๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิง
หน้าหนาวช้างจะตกมัน ตอนนี้แหละเราจะเห็นลักษณะท่าทางของช้างว่ามีความห้าวหาญดุดันอย่างไร หน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบาง ๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิงว่าสวยงามแค่ไหนเพียงใด
เป็นคำกล่าวแนะนำให้สังเกตลักษณะของช้างและหญิงสาวที่เป็นไปตามธรรมชาติและสภาวะอากาศ
ประเภทสำนวน
"ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มีความชัดเจนในตัวเอง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการพิจารณาเลือกช้างและเลือกคู่ครอง โดยสอนหลักการพิจารณาที่ถูกต้อง ผู้ฟังเข้าใจได้ทันทีว่าควรปฏิบัติอย่างไร
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้เป็นคำสอนเรื่องการพิจารณาสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เหมาะสม สำหรับการดูช้าง ควรดูในหน้าหนาว เพราะช้างจะผอมทำให้เห็นรูปร่างและโครงสร้างที่แท้จริงได้ชัดเจน ส่วนการเลือกคู่ครอง ควรดูในหน้าร้อน เพราะสภาพอากาศร้อนจะทำให้เห็นอารมณ์ บุคลิกภาพ และการดูแลตัวเองที่แท้จริงของหญิงสาว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน" ในประโยค
- พ่อแม่มักสอนลูกชายว่า 'ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน' เพื่อให้เลือกคู่ครองได้อย่างรอบคอบ
- คุณปู่เคยบอกว่า 'ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน' เพราะหน้าร้อนจะเห็นว่าผู้หญิงคนไหนอดทน ไม่บ่นมาก ยังคงรักษาความสะอาดและกิริยามารยาทได้ดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนที่ให้ข้อคิดโดยตรงเกี่ยวกับการพิจารณาสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เห็นสภาพที่แท้จริง มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม และเป็นคำสอนที่ให้แง่คิดในการดำเนินชีวิตอย่างมีปัญญา
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนให้พิจารณาสิ่งต่างๆ ในช่วงเวลาที่จะเห็นสภาพที่แท้จริงของสิ่งนั้น โดยช้างจะอ้วนท้วนสมบูรณ์ในฤดูฝน แต่พอถึงหน้าหนาวจะผอมซูบลง ดังนั้นหากต้องการรู้ว่าช้างเชือกใดแข็งแรงจริงๆ ควรดูในหน้าหนาว ส่วนหญิงสาวนั้น หน้าร้อนจะเผยให้เห็นสภาพผิวพรรณและร่างกายที่แท้จริง ไม่สามารถปกปิดด้วยเสื้อผ้าหนาๆ เหมือนในหน้าหนาว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน" ในประโยค
- ญาติๆ พากันมาเลือกคู่ให้ลูกสาว แต่พ่อแม่ยังยืนยันให้รอดูตัวในช่วงหน้าร้อน ตามคำโบราณที่ว่า 'ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน' จะได้เห็นของจริง
- ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้านในหมู่บ้านแห่งนี้ คุณควรมาดูในช่วงหน้าฝน จะได้รู้ว่ามีน้ำท่วมขังหรือไม่ เหมือนคำที่ว่า 'ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน' เราต้องดูในช่วงเวลาที่เหมาะสม
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี