ประเภทสำนวน
"ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า จัดเป็นสุภาษิตเพราะให้คำสอนหรือข้อคิดโดยตรง ไม่ต้องตีความเพิ่มเติม เป็นประโยคที่มีความสมบูรณ์ในตัวเอง และให้คำสอนเชิงแนวทางการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้มาจากการสังเกตการทำงานของช่างที่ต้องใช้ความประณีต เช่น ช่างทำพร้า หรือมีด ถ้าช่างเร่งรีบและไม่ใส่ใจในรายละเอียด พร้าที่ทำออกมาก็จะไม่สวยงามหรือไม่มีคุณภาพ แต่หากทำด้วยความมีสติ รอบคอบ ไม่รีบร้อน ค่อย ๆ ทำอย่างพิถีพิถัน ผลงานที่ออกมาจะมีคุณภาพดีและสวยงาม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม" ในประโยค
- พ่อแม่มักสอนลูก 'ลูกเอ๋ย ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม' เพื่อเตือนให้มีความรอบคอบไม่รีบร้อนในการทำงาน
- คุณครูเห็นนักเรียนทำการบ้านอย่างรีบเร่ง จึงเตือนว่า 'ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม ทำแบบนี้อาจทำให้เกิดความผิดพลาดได้'
- ในการอบรมพนักงานใหม่ หัวหน้าเน้นย้ำเสมอว่า 'ช้า ๆ ได้พร้าเล่มงาม อย่าให้ความเร็วมาแลกกับคุณภาพงาน'
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี