ภรรยา, ผู้ตาม, ผู้คอยหนุนหลัง สนับสนุนผู้นำของตัวเองหรือสามี
เดี๋ยวนี้ผู้หญิงไม่ใช่ช้างเท้าหลังอีกต่อไปแล้ว บางครอบครัวเธอกลายเป็นช้างเท้าหน้าแทนสามีไปแล้ว
คู่ชีวิต ผู้ตาม ผู้คอยหนุนหลัง สนับสนุนผู้นำของตัวเอง
ประเภทสำนวน
"ช้างเท้าหลัง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝงและต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้ให้คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต แต่เปรียบเทียบพฤติกรรมของคนบางประเภทกับลักษณะของช้างเท้าหลัง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มีที่มาจากลักษณะของช้างที่ล้มแล้วลุกช้าหรือเดินตามช้างตัวอื่น โดยเปรียบเทียบกับคนที่เป็นรองหรือตามหลังผู้อื่นอยู่เสมอในเรื่องความก้าวหน้า ความรู้ หรือความสามารถ แต่ภายหลังกลับมีความก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ หรือมีความสามารถเหนือกว่าผู้ที่เคยอยู่ข้างหน้าตน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ช้างเท้าหลัง" ในประโยค
- น้องชายเขาเคยเรียนไม่เก่ง แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยกลับเรียนได้เกียรตินิยม เป็นช้างเท้าหลังชัดๆ
- ใครๆ ก็คิดว่าบริษัทเล็กๆ นี้จะไปไม่รอด แต่สิบปีให้หลังกลับกลายเป็นผู้นำตลาด เป็นช้างเท้าหลังที่ก้าวขึ้นมาแซงหน้าคู่แข่งทั้งหมด
- อย่าดูถูกเด็กคนนี้ บางทีเขาอาจจะเป็นช้างเท้าหลังที่ประสบความสำเร็จในอนาคตก็ได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ช้างเท้าหลัง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝงต้องตีความ โดยเปรียบเทียบกับพฤติกรรมของคนกับช้าง ไม่ได้มีคำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และมีลักษณะเป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากลักษณะของช้างตัวที่เดินตามหลังในขบวนช้าง ซึ่งมักใช้เท้าเหยียบรอยเท้าช้างตัวข้างหน้า ถูกนำมาเปรียบเปรยถึงคนที่ชอบทำตาม เลียนแบบ หรือเอาอย่างผู้อื่น โดยไม่มีความคิดสร้างสรรค์หรือแนวทางเป็นของตัวเอง เป็นเพียงผู้ตามไม่ใช่ผู้นำ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ช้างเท้าหลัง" ในประโยค
- เขาไม่เคยมีไอเดียใหม่ๆ เลย พอเห็นคนอื่นทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จก็เป็นช้างเท้าหลังทำตามเขาไปหมด
- ธุรกิจของเขาไม่มีอะไรโดดเด่น แค่เป็นช้างเท้าหลังที่คอยลอกเลียนแบบสินค้าของบริษัทใหญ่เท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี