มุ่งอย่างหนึ่งไปได้อีกอย่างหนึ่ง มุ่งอย่างหนึ่งกลายไปเป็นอย่างหนึ่งต้องการอีกอย่าง ทำเพื่อจะได้มันมามุ่งมั่นไปหามัน แต่กลับได้อีกอย่างนึงซะอย่างงั้น
ประเภทสำนวน
"จับดำถลำแดง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นสำนวนที่มีลักษณะเปรียบเปรยถึงการกระทำหรือสถานการณ์บางอย่าง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และต้องตีความเพื่อเข้าใจความหมายแฝง เป็นการเปรียบถึงสถานการณ์ที่คนทำอะไรพลาดซ้ำซ้อน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการเล่นไพ่หรือการพนัน โดย 'ดำ' และ 'แดง' หมายถึงสีของไพ่หรือการทาย เมื่อเสียพนันจากการทายผิด (จับดำ) แล้วยังพยายามแก้ตัวด้วยการเล่นต่อแต่ก็พลาดอีก (ถลำแดง) ทำให้ยิ่งเสียหนักขึ้น เปรียบเหมือนคนที่พลาดพลั้งสิ่งหนึ่งแล้วพยายามแก้ไข แต่กลับทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จับดำถลำแดง" ในประโยค
- นายแดงเสียเงินจากการลงทุนหุ้นผิดตัว แล้วรีบไปกู้เงินนอกระบบมาลงทุนเพิ่มหวังจะถอนทุนคืน สุดท้ายหุ้นก็ดิ่งลงอีก นี่เรียกว่าจับดำถลำแดงชัดๆ
- เธอโกหกแฟนว่าไปทำงาน ที่ไหนได้แอบไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ดันเจอแฟนที่ห้างสรรพสินค้า แล้วยังโกหกซ้ำอีกว่าเพิ่งเลิกงาน ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน เรียกว่าจับดำถลำแดงเลยทีเดียว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี