เคยมั่งมีมาก่อยแล้วทำตัวตามอัตภาพที่ขัดสนไม่ได้ คล้ายกับ จมไม่ลง
ประเภทสำนวน
"จนไม่ลง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝงต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเปรยถึงคนที่มีฐานะดี มีเงินทอง แต่ชอบแสร้งทำตัวเหมือนคนจน ตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ยอมใช้จ่ายหรือแบ่งปัน เก็บสะสมทรัพย์สินไว้อย่างเหนียวแน่น จนไม่สามารถทำตัวให้ดูจนได้อย่างแท้จริง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จนไม่ลง" ในประโยค
- คุณเสี่ยคนนั้นเป็นเศรษฐีระดับจังหวัด แต่ชอบใส่เสื้อผ้าขาดๆ ไม่ยอมซื้อใหม่ ดูท่าแล้วเป็นพวกจนไม่ลง
- ถึงจะมีบ้านหลังใหญ่ รถหรู แต่ไม่เคยเลี้ยงใครสักมื้อ ชวนไปกินข้าวทีไรก็บอกไม่มีเงิน แบบนี้เรียกจนไม่ลงนะ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี