ประเภทสำนวน
"จนแล้วไม่เจียม" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่เปรียบเปรยถึงพฤติกรรมของคนที่ไม่รู้จักประมาณตน โดยมีความหมายแฝงให้ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่แปลตรงๆ ไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
หมายถึง คนที่ไม่มีฐานะดี แต่ไม่รู้จักประมาณตน ชอบทำตัวเหมือนคนมีฐานะ ฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเกินตัว หรือไม่รู้จักวางตัวให้เหมาะสมกับฐานะของตัวเอง สำนวนนี้สอนให้คนรู้จักประมาณตน ใช้ชีวิตให้เหมาะสมกับฐานะความเป็นอยู่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "จนแล้วไม่เจียม" ในประโยค
- เพื่อนคนนี้เงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่ชอบซื้อของแบรนด์เนม หยิบเงินผ่อนทั้งรถทั้งบ้าน จนแล้วไม่เจียม สุดท้ายก็มีแต่หนี้สิน
- เธอจนแล้วไม่เจียม เงินเดือนน้อยแต่ทำตัวหรูหรา ชอบไปเที่ยวร้านแพงๆ สุดท้ายก็ต้องยืมเงินเพื่อนประทังชีวิตทุกเดือน
- พวกที่จนแล้วไม่เจียม ชอบอวดรวย ทำตัวฟุ้งเฟ้อ สุดท้ายมักจะลงเอยด้วยหนี้สินล้นพ้นตัว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี