มีอาการซึมเซาอยากนอนมาก เหมือนพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
ประเภทสำนวน
"ง่วงเหงาหาวนอน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะในภาษาไทย ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (จึงไม่ใช่สุภาษิต) และไม่ได้เปรียบเทียบหรือเปรียบเปรยอะไร (จึงไม่ใช่คำพังเพย) แต่เป็นคำที่บรรยายอาการเฉพาะที่เข้าใจกันในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้บรรยายอาการเมื่อรู้สึกง่วงนอน มีอาการหาวและเริ่มรู้สึกเหงา ซึมลง ขาดความกระตือรือร้น เป็นการบรรยายอาการทางร่างกายและจิตใจที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายต้องการพักผ่อน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ง่วงเหงาหาวนอน" ในประโยค
- เขาเริ่มง่วงเหงาหาวนอนหลังจากประชุมมานานเกือบสามชั่วโมง
- หลังกินข้าวเสร็จ ฉันก็เริ่มง่วงเหงาหาวนอน คงต้องหาที่พักผ่อนแล้ว
- ดึกแล้ว เด็กๆ เริ่มง่วงเหงาหาวนอนกันแล้ว น่าจะพากลับบ้านได้แล้ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี