อยู่ในระยะคับขันกำลังจะได้หรือเสียก้ำกึ่งกัน
ประเภทสำนวน
"คาบลูกคาบดอก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม มีลักษณะเปรียบเปรย ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงและไม่ได้เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้มาจากลักษณะของนกที่คาบทั้งดอกไม้และลูกของตนในปากพร้อมกัน เปรียบเทียบกับคนที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่างในเวลาเดียวกัน หรือมีภาระหนักทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว ทำให้ลำบากในการจัดการ เพราะต้องแบ่งความสนใจไปหลายทาง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คาบลูกคาบดอก" ในประโยค
- แม่เลี้ยงเดี่ยวที่ต้องทำงานหาเงินไปพร้อมกับเลี้ยงลูกเล็กๆ คงเหนื่อยมากที่ต้องคาบลูกคาบดอกทุกวัน
- ช่วงที่ต้องเรียนปริญญาโทไปด้วยทำงานเต็มเวลาไปด้วย เขาคาบลูกคาบดอกจนน้ำหนักลดไปหลายกิโล
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี