สิ่งที่ดูภายนอกแล้วดูสวยงามดูดี แต่แท้จริงแล้วภายในนั้นแย่
เปรียบเทียบกับผลไม้ ที่ภายนอกผลสวยงาม แต่ภายในนั้นเป็นโพรงเนื่องจากมีแมลงกินหมดแล้ว
เป็นสำนวนที่ตรงกันข้ามกับ ข้างนอกขรุขระข้างในต๊ะติ๊งโหน่ง
ประเภทสำนวน
"ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยเกี่ยวกับลักษณะภายนอกและภายในที่ขัดแย้งกัน โดยใช้การเปรียบเทียบกับผลไม้ที่ดูดีแต่เน่าข้างใน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต แต่ต้องตีความความหมายแฝงเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับลักษณะของผลไม้หรือสิ่งของที่ภายนอกดูสวยงาม สมบูรณ์ สุกงอม แต่เมื่อผ่าดูภายในกลับพบว่าเน่าเสีย เป็นโพรง หรือไม่มีแก่นสาร นำมาใช้เปรียบเทียบกับคนที่ภายนอกดูดี น่าเชื่อถือ แต่แท้จริงแล้วภายในจิตใจกลับไม่ดี ไม่มีความจริงใจ หรือมีเล่ห์เหลี่ยมซ่อนอยู่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง" ในประโยค
- หลังจากที่ทำงานด้วยกันมาหลายเดือน ฉันจึงรู้ว่าหัวหน้าคนใหม่เป็นคนข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ยิ้มหวานต่อหน้าแต่คอยจับผิดลูกน้องลับหลัง
- อย่าเพิ่งไว้ใจเขานะ ดูเหมือนจะใจดี แต่ฉันเคยได้ยินมาว่าเขาเป็นคนข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ชอบหลอกใช้คนอื่น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี