เลี้ยงไม่เชื่องมีแต่เนรคุณ
ประเภทสำนวน
"ขุนไม่ขึ้น" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่มีลักษณะเปรียบเปรย มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต หรือเป็นวลีเฉพาะที่แปลความตรงตัวไม่ได้เหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการตกปลา เมื่อปลาที่ติดเบ็ดมีขนาดใหญ่มาก คนตกปลาไม่สามารถ 'ขุน' หรือกระตุกคันเบ็ดให้ปลาขึ้นมาได้ โดยนำมาเปรียบกับสถานการณ์ที่บุคคลพยายามทำสิ่งใดแล้วไม่สำเร็จ ไม่อาจเอาชนะหรือควบคุมสถานการณ์ได้ เนื่องจากอีกฝ่ายมีอำนาจหรือศักยภาพเหนือกว่ามาก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ขุนไม่ขึ้น" ในประโยค
- พอเขาเป็นถึงลูกนายอำเภอ ผมจะไปฟ้องร้องอะไรก็ขุนไม่ขึ้นหรอก
- คนอย่างเรา ไปเถียงกับทนายความมืออาชีพแบบนั้น มันขุนไม่ขึ้นหรอก เถียงไปก็แพ้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี