โผงผางไม่เกรงใจใคร(ใช้แค่กริยาพูด)
ประเภทสำนวน
"ขวานผ่าซาก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความหมายเฉพาะที่ใช้กันในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการผ่าซากสัตว์ด้วยขวาน ซึ่งเป็นการใช้เครื่องมือหนักและแรงกับงานที่ต้องการความรวดเร็ว ไม่ประณีต แต่ได้ผลชัดเจน สื่อถึงการพูดหรือทำอะไรตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม ไม่มีการปรุงแต่ง ไม่ใช้คำสวยหรู ไม่พยายามเกลื่อนหรือปิดบัง แต่บอกตามความเป็นจริงอย่างหมดเปลือก บางครั้งอาจดูหยาบหรือไม่ละเอียดอ่อน แต่ชัดเจนและตรงประเด็น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ขวานผ่าซาก" ในประโยค
- เขาเป็นคนพูดจาขวานผ่าซาก ไม่เคยอ้อมค้อมหรือประดิดประดอย บอกความจริงตรงๆ จนบางครั้งคนฟังรับไม่ได้
- รายงานชิ้นนี้เขียนแบบขวานผ่าซาก ระบุข้อบกพร่องของทีมโดยไม่มีการเลือกใช้ถ้อยคำให้นุ่มนวล
- นักวิจารณ์คนนี้มีสไตล์การวิจารณ์แบบขวานผ่าซาก ตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร แต่สิ่งที่วิจารณ์มักจะถูกต้อง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี