ได้รับผลแห่งความดีที่ทําไว้แต่ปางก่อน (มักใช้เป็นสํานวนอุปมาแก่คนที่นอนกินนั่งกินสมบัติเก่า)
ประเภทสำนวน
"กินบุญเก่า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความ เปรียบเทียบเรื่องบุญที่ทำมาในอดีตมาเกื้อหนุนในปัจจุบัน ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่วลีสั้นๆ ที่มีความหมายพิเศษเฉพาะเหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากความเชื่อทางพุทธศาสนาเรื่องกฎแห่งกรรม ที่เชื่อว่าผลบุญที่คนเราได้สร้างสมไว้ในอดีตหรือชาติก่อน จะส่งผลให้เกิดความสุข ความสะดวกสบาย หรือโชคลาภในปัจจุบัน โดยเฉพาะเมื่อบุคคลนั้นไม่ได้ทำงานหนัก หรือพยายามในปัจจุบัน แต่กลับได้รับผลประโยชน์หรือความสะดวกสบาย ก็ถือว่าเป็นการ 'กินบุญเก่า'
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินบุญเก่า" ในประโยค
- พี่ชายได้เลื่อนตำแหน่งทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน คนอื่นเขาลือกันว่าเป็นเพราะเขากินบุญเก่า
- พวกคนรวยที่นั่งๆ นอนๆ ก็มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ เขาคงได้กินบุญเก่าที่ทำไว้มากสินะ
- ถึงจะกินบุญเก่าได้ตอนนี้ แต่ก็ต้องสร้างบุญใหม่เพิ่มด้วยนะ ไม่อย่างนั้นวันหนึ่งบุญเก่าหมด ก็จะลำบาก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี