จำต้องยอมเป็นรองเขา, ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า
ประเภทสำนวน
"กินน้ำไต้ศอก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีสั้นๆ ที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ถ้าแปลตรงตัวจะไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ต้องทำความเข้าใจความหมายเฉพาะที่ใช้ในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากลักษณะอาการของคนที่ต้องดื่มน้ำในท่าที่ลำบาก คือต้องก้มศีรษะต่ำกว่าระดับศอกเพื่อดื่มน้ำ แสดงถึงความยากลำบาก สื่อถึงการทำงานหรือการดำเนินชีวิตที่ต้องฝืนใจ อึดอัด ยากลำบาก ไม่สบายใจ หรือต้องอยู่ใต้อำนาจผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กินน้ำไต้ศอก" ในประโยค
- ฉันทนทำงานกับเจ้านายคนนี้มานาน ถึงจะต้องกินน้ำไต้ศอกแต่ก็ต้องอดทนไปก่อนเพราะยังหางานใหม่ไม่ได้
- พนักงานใหม่คนนั้นอยู่ได้ไม่นาน ลาออกไปแล้ว คงทนสภาพกินน้ำไต้ศอกไม่ไหว เพราะหัวหน้าแผนกนั้นเข้มงวดมาก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี