การพูดแบบกว้าง ๆ อาจจะตรงประเด็นหรือไม่ตรง เป็นการตอบที่ไม่ใช่คำตอบที่ผิด แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้ประโยชน์แก่ผู้ฟัง
ประเภทสำนวน
"กำปั้นทุบดิน" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และมีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมที่ไม่เกิดผล
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับการใช้กำปั้นทุบลงบนพื้นดิน ซึ่งเมื่อทุบลงไปแล้ว ดินจะยุบตัวลงเพียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับความเสียหายอย่างใด และเมื่อเวลาผ่านไปก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม เปรียบได้กับการทำอะไรที่ไม่เกิดผล หรือไม่ได้ประโยชน์ใดๆ เป็นการลงแรงเปล่า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กำปั้นทุบดิน" ในประโยค
- เขาพยายามทำเรื่องร้องเรียนผู้ใหญ่ที่มีอิทธิพล แต่ก็เหมือนกำปั้นทุบดิน ไม่มีใครกล้าดำเนินการอะไร
- การเข้าไปเตือนคนเมาไม่ให้ขับรถกลับบ้านเอง ก็เหมือนกำปั้นทุบดิน พูดเท่าไรเขาก็ไม่ฟัง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี