ผู้ที่ใครๆ ก็ใช้ได้, ผู้ที่ใครๆ พากันรุมใช้อยู่คนเดียว
กระโถนใหญ่ที่ตั้งไว้ที่ท้องพระโรงในศาลาลูกขุนใน สำหรับที่ใคร ๆ บ้วนน้ำหมากหรือทิ้งชานหมากได้
คนที่โดนผู้อื่นรุมใช้อยู่คนเดียว ใคร ๆ ต่างก็เรียกใช้เหมือนกระโถนที่ต้องรองรับทุกสิ่งทุกอย่าง
บุคคลที่ถูกใคร ๆ รุมใช้อยู่คนเดียว
ประเภทสำนวน
"กระโถนท้องพระโรง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องทราบบริบททางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทย จึงจะเข้าใจความหมายที่แท้จริง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากกระโถนที่วางไว้ในท้องพระโรงสมัยโบราณ ซึ่งเป็นที่รองรับน้ำลายหรือเสมหะของคนทั่วไปที่เข้าเฝ้า จึงมีคนมาบ้วนน้ำลายลงจำนวนมาก และกลายเป็นที่รองรับความผิดหรือความเลวร้ายจากทุกคน สะท้อนถึงคนที่ตกเป็นเป้าให้คนอื่นตำหนิ ด่าว่า หรือกล่าวโทษไปทุกเรื่อง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระโถนท้องพระโรง" ในประโยค
- ตำแหน่งหัวหน้าแผนกนี้เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรง ใครมีปัญหาอะไรก็โทษหัวหน้าคนเดียว
- น้องเล็กในบ้านมักเป็นกระโถนท้องพระโรง พี่ๆ ทำอะไรเสียหาย พ่อแม่ก็มักจะหาว่าน้องเป็นคนทำ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กระโถนท้องพระโรง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะในภาษาไทย ฟังแล้วไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงหากแปลความตรงตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากกระโถนที่ตั้งอยู่กลางท้องพระโรงในสมัยก่อน ซึ่งเป็นสถานที่สาธารณะที่มีผู้คนผ่านไปมา ทำให้กระโถนเป็นที่รองรับความสกปรกจากคนมากมาย เปรียบเหมือนคนที่ถูกผู้อื่นกล่าวหาหรือกล่าวร้ายต่างๆ นานา ต้องทนรับคำนินทาหรือความเสียหายจากทุกคน โดยไม่สามารถโต้แย้งหรือปกป้องตนเองได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระโถนท้องพระโรง" ในประโยค
- ตำแหน่งผู้จัดการแผนกลูกค้าสัมพันธ์นี่เหมือนกระโถนท้องพระโรง ใครก็โทษ ใครก็บ่น ใครมีเรื่องไม่พอใจก็มาระบาย
- เป็นเลขาฯ ผู้บริหารนี่แย่จริงๆ เหมือนกระโถนท้องพระโรง ทุกฝ่ายมีปัญหาอะไรกับเจ้านายก็มาลงที่เรา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กระโถนท้องพระโรง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นนัยหรือความหมายเฉพาะ เข้าใจความหมายเฉพาะที่ใช้ในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเปรยถึงคนที่ถูกคนทั่วไปดูถูก เหยียดหยาม หรือรังเกียจ โดยมีที่มาจากกระโถนในสมัยโบราณที่ตั้งอยู่ในท้องพระโรงซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ แต่กระโถนกลับเป็นที่รองรับสิ่งปฏิกูล แม้จะอยู่ในสถานที่สูงส่งก็ยังเป็นของต่ำต้อย ไม่มีใครนับถือ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระโถนท้องพระโรง" ในประโยค
- ถึงจะได้เป็นเลขาฯ คณะกรรมการบริหาร แต่เขาก็ยังถูกเจ้านายคนอื่นใช้งานสารพัด เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรง
- เขายอมเป็นกระโถนท้องพระโรงให้ทุกคนดูถูกเพื่อรักษาตำแหน่งในบริษัทเอาไว้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี