ดีอกดีใจตื่นเต้นมาก
ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการดีอกดีใจตื่นเต้นจนตัวสั่น
ใช้เปรียบเทียบคนที่แสดงอาการดีอกดีใจจนตัวสั่นเช่นเขาดีใจเหมือนกระดี่ได้น้ำ
อาการแสดงความดีใจ หรือตื่นเต้นจนตัวสั่น
ประเภทสำนวน
"กระดี่ได้น้ำ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์ผ่านลักษณะของสัตว์ มีความหมายเชิงเปรียบเปรย ที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากลักษณะของปลากระดี่ที่ชอบอยู่ในน้ำและชุ่มชื่นเป็นธรรมชาติ เมื่อได้กลับลงไปอยู่ในน้ำ จึงเปล่งเสียงดังและแสดงความดีใจอย่างชัดเจน สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ได้ทำในสิ่งที่ตนถนัดหรือชอบ จึงแสดงความดีอกดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระดี่ได้น้ำ" ในประโยค
- เพียงแค่พาเขาไปเที่ยวทะเล เขาก็เหมือนกระดี่ได้น้ำ ดีใจจนเนื้อเต้น เพราะรักการว่ายน้ำมาก
- พอให้โอกาสเด็กคนนี้ได้แสดงความสามารถด้านศิลปะ เขาเป็นเหมือนกระดี่ได้น้ำ แสดงออกอย่างมีความสุขและคล่องแคล่ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กระดี่ได้น้ำ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยพฤติกรรมมนุษย์ โดยใช้ลักษณะของปลากระดี่เมื่อได้น้ำเป็นการเปรียบเทียบ มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากพฤติกรรมของปลากระดี่ (ปลากัด) ซึ่งเมื่อได้น้ำจะแสดงอาการตื่นเต้น ว่องไว กระโดดโลดเต้น คล่องแคล่ว ร่าเริงเป็นพิเศษ ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่เมื่อได้รับโอกาสหรืออยู่ในสถานการณ์ที่ตนถนัด ก็จะแสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ คล่องแคล่ว กระตือรือร้น หรือเกิดความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นทันที
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระดี่ได้น้ำ" ในประโยค
- เขาเป็นคนขี้อายเมื่ออยู่ในที่ชุมชน แต่พอให้เขาขึ้นเวทีร้องเพลง กลายเป็นกระดี่ได้น้ำเลย
- หมอนั่นปกติเงียบๆ แต่พอได้เข้าห้องประชุมเสนอไอเดียธุรกิจ เหมือนกระดี่ได้น้ำ พูดไม่หยุดเลย
- เด็กคนนี้ไม่ค่อยพูดในห้องเรียน แต่พอให้มาเล่นกีฬาที่ถนัด เป็นกระดี่ได้น้ำทันที คล่องแคล่วว่องไวมาก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กระดี่ได้น้ำ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยถึงพฤติกรรมของคนที่มีลักษณะพิเศษเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เหมาะสม จึงเป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากพฤติกรรมของปลากระดี่ (ปลาในครอบครัวเดียวกับปลากัด) ซึ่งเมื่ออยู่ในน้ำ จะมีความคล่องแคล่วว่องไว สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ ใช้เปรียบเทียบกับคนที่เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ที่ตนถนัด จะสามารถแสดงความสามารถออกมาได้อย่างเต็มที่ คล่องแคล่ว แตกต่างจากเวลาที่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระดี่ได้น้ำ" ในประโยค
- พอได้ขึ้นพูดบนเวที ดูเธอเป็นเหมือนกระดี่ได้น้ำ พูดได้คล่องแคล่วมาก ทั้งที่ปกติเป็นคนเงียบๆ
- อาจารย์ท่านนี้เหมือนกระดี่ได้น้ำเลย พอได้เข้าห้องสอนนักเรียนเป็นพูดไม่หยุดเลย ทั้งที่นอกห้องเรียนแทบไม่ค่อยพูดกับใคร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี