ตัดขาดไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย
ประเภทสำนวน
"กรวดน้ำคว่ำกะลา" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และไม่ใช่วลีที่มีความหมายเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบกับการกระทำที่สิ้นหวัง ไม่มีทางแก้ไขหรือกลับเป็นอย่างเดิมได้แล้ว 'กรวดน้ำ' หมายถึงการรินน้ำหยดลงพื้นเพื่ออุทิศส่วนกุศล และ 'คว่ำกะลา' หมายถึงการนำกะลามะพร้าวมาคว่ำลง เมื่อนำทั้งสองอย่างมารวมกัน จึงหมายถึงการทำให้สิ่งต่างๆ สิ้นสุดลงโดยสมบูรณ์ ไม่สามารถเรียกกลับคืนได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กรวดน้ำคว่ำกะลา" ในประโยค
- หลังจากเขาตัดสินใจลาออกจากงานและพูดจาไม่ดีกับเจ้านาย ก็เรียกได้ว่ากรวดน้ำคว่ำกะลาแล้ว ไม่มีทางกลับมาทำงานที่นี่ได้อีก
- พอเธอตัดสินใจเลิกกับแฟนแบบนั้น ก็เท่ากับกรวดน้ำคว่ำกะลา ความสัมพันธ์นี้คงจบลงอย่างสิ้นเชิง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี