โลภมากเกินไป ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย
คนโบราณท่านสอนให้รู้จักมีความพอประมาณไว้บ้าง
ประเภทสำนวน
"โลภมาก ลาภหาย" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต แต่เป็นการเปรียบเปรยว่าหากมีความโลภมากเกินไปก็จะไม่ได้ประโยชน์ตามที่หวัง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้สื่อถึงผลที่เกิดจากความโลภหรือความละโมบมาก จนเกินพอดี ซึ่งมักจะทำให้สูญเสียผลประโยชน์ที่ควรจะได้รับ เปรียบเสมือนกับการที่บุคคลโลภมากเกินไป จนทำให้พลาดโอกาสที่จะได้รับผลประโยชน์ที่ควรได้ หรือสูญเสียสิ่งที่มีอยู่แล้ว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "โลภมาก ลาภหาย" ในประโยค
- เขาพยายามจะเรียกร้องค่าตอบแทนเพิ่มทั้งๆ ที่ได้รับมากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว สุดท้ายเจ้านายเลยไม่ให้อะไรเลย จริงๆ แล้วโลภมาก ลาภหาย
- อย่าเห็นแก่ตัวจนเกินไป โลภมาก ลาภหาย เดี๋ยวจะไม่ได้อะไรเลย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"โลภมาก ลาภหาย" จัดว่าเป็น สุภาษิต เพราะว่า เป็นคำสอนโดยตรงที่มีข้อคิดชัดเจน สอนเรื่องผลของความโลภ มีความสมบูรณ์ในตัวเอง ฟังแล้วเข้าใจได้ทันทีโดยไม่ต้องตีความเพิ่มเติม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สุภาษิตนี้สอนว่าคนที่มีความโลภมากเกินไป มักจะสูญเสียผลประโยชน์ที่ควรได้รับ แทนที่จะได้มากกลับไม่ได้อะไรเลย เนื่องจากความโลภทำให้ไม่รู้จักพอ จนนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดหรือทำเกินกว่าที่ควร สุภาษิตนี้สะท้อนหลักธรรมเรื่องความพอประมาณและการรู้จักพอ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "โลภมาก ลาภหาย" ในประโยค
- ธุรกิจของเขาล้มเพราะอยากขยายกิจการเร็วเกินไป ไม่รอให้มั่นคงก่อน จริงอยู่ที่ว่าโลภมาก ลาภหาย
- เธอไม่ควรกักตุนสินค้าไว้มากเกินไป รอราคาขึ้น จะได้ไม่เป็นไปตามคำว่าโลภมาก ลาภหาย
- บริษัทถูกปรับหลายล้านเพราะฉ้อโกงผู้บริโภค นี่แหละโลภมาก ลาภหาย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี