ทำหรือพูดให้กระทบกระเทือนใจในตอนแรก แล้วกลับทำหรือพูดเป็นการปลอบใจในตอนหลัง
ทำหรือพูดให้กระทบกระเทือนใจในตอนแรกแล้วกลับทำหรือพูดเป็นการปลอบใจในตอนหลัง
ประเภทสำนวน
"ตบหัวลูบหลัง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นพิเศษ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ต้องตีความเพิ่มเติม (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการกระทำที่ขัดแย้งกัน คือการตบหัวหรือทำร้ายในส่วนหนึ่ง แล้วตามด้วยการลูบหลังหรือปลอบโยนอีกส่วนหนึ่ง แสดงถึงพฤติกรรมที่ให้ทั้งความเจ็บปวดและให้ความอบอุ่นในเวลาเดียวกัน เปรียบเหมือนการกระทำที่ทำร้ายหรือว่ากล่าวคนอื่นก่อน แล้วตามด้วยการปลอบประโลมทีหลัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตบหัวลูบหลัง" ในประโยค
- เธอเป็นคนแบบตบหัวลูบหลัง ชอบด่าฉันแรงๆ แล้วก็มาขอโทษพร้อมซื้อของขวัญมาให้
- ครูคนนี้สอนแบบตบหัวลูบหลัง บางทีก็ดุนักเรียนอย่างรุนแรง แล้วก็มาปลอบและให้กำลังใจในภายหลัง
- แม่ชอบตบหัวลูบหลัง ด่าลูกจนร้องไห้ แล้วก็มาปลอบและให้ขนมกิน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ตบหัวลูบหลัง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความความหมายพิเศษ ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเปรยที่ต้องตีความเพิ่มเติม แต่เป็นการกระทำเฉพาะที่มีความหมายในวัฒนธรรมไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึงการกระทำที่มีลักษณะขัดแย้งกัน คือทำร้ายหรือทำให้เจ็บก่อน แล้วจึงตามด้วยการปลอบโยนหรือให้ความช่วยเหลือ เปรียบเสมือนการตบที่ศีรษะ ซึ่งทำให้เจ็บ แล้วตามด้วยการลูบหลังเพื่อปลอบประโลม แสดงถึงพฤติกรรมที่ไม่จริงใจหรือมีเจตนาซ่อนเร้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ตบหัวลูบหลัง" ในประโยค
- หัวหน้าคนนี้ชอบตบหัวลูบหลัง วันก่อนด่าพนักงานต่อหน้าที่ประชุม พอเลิกงานกลับมาชวนไปกินข้าวเลี้ยง
- รัฐบาลออกมาตรการตบหัวลูบหลัง ขึ้นภาษีสินค้าอุปโภคบริโภคแล้วให้เงินช่วยเหลือคนจนเพียงเล็กน้อย
- อย่าตบหัวลูบหลังกับลูกน้องเลย ทำแบบนี้คนทำงานจะไม่ไว้ใจคุณ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี