คำพังเพย หมวด ข

คำพังเพย หมวด ข ตามที่เคยรู้จัก คำพังเพย มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

คำพังเพย คือ ถ้อยอุปมาที่กล่าวกระทบเสียดสี ซึ่งมาจากเหตุการณ์เรื่องราวหรือความเป็นไปในวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนเป็นสิ่งควรค่าแก่การเรียนรู้ และจดจำเป็นอย่างยิ่ง เป็นถ้อยคำที่มีความหมายลึกซึ้งกว่าสำนวน มีลักษณะติชม หรือแสดงความเห็นอยู่ในตัว แต่ไม่ถึงกับเป็นคำสอน

รวมคำพังเพย หมวด ข

คำพังเพย หมวด ข ตามที่เคยรู้จัก คำพังเพย มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

  1. ขนทรายเข้าวัด
    หมายถึง หาประโยชน์ให้ส่วนรวม
  2. ขนมผสมน้ำยา
    หมายถึง ทั้งคู่ดีเลวพอกัน จะบอกว่าใครดีกว่าใครไม่ได้
  3. ขนมพอสมกับน้ำยา
    หมายถึง ใช้ในการเปรียบเทียบของทั้งสองสิ่งนั้นมีมูลค่า, ความดีความร้าย, ความสามารถ นั้นพอ ๆ กัน ไม่ด้อยไปกว่ากัน
  4. ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
    หมายถึง ไม่กระทบกระเทือนถึงเดือดร้อน
  5. ขนหน้าแข้งไม่ร่วง
    หมายถึง ไม่กระทบกระเทือนถึงเดือดร้อน (ใช้แก่คนมั่งมีที่ต้องจ่ายเงินแม้จะมากแต่ก็ดูเหมือนเป็นจำนวนเล็ก ๆ น้อย ๆ)
  6. ขมิ้นกับปูน
    หมายถึง ชอบวิวาทกันอยู่เสมอเมื่ออยู่ใกล้กัน ไม่ถูกกัน
  7. ขมิ้นกับปูน
    หมายถึง คนสองคนที่ไม่ถูกกันอยู่ใกล้กันเมื่อไรก็ต้องทะเลาะวิวาทกันเมื่อนั้น
  8. ขวานฝ่าซาก
    หมายถึง ผงผางไม่เกรงใจใคร (ใช้แก่กริยาพูด)
  9. ขวานฝ่าซาก
    หมายถึง พูดจาตรง ๆ ไม่เกรงใจใครเลย
  10. ขว้างงูไม่พ้นคอ
    หมายถึง ทำอะไรแล้วผลร้ายกลับมาสู่ตัว
  11. ขว้างงูไม่พ้นคอ
    หมายถึง ทำอะไรก็ตาม ผลร้ายย้อนกลับมาสู่ตัวเอง
  12. ขัดคอคน สนจมูกม้า
    หมายถึง ยับยั้งคนอื่นให้อยู่ในลู่ในทาง ดังม้าพยศ ต้องสนเคราสนจมูก ก็จะควบคุมม้าได้ ทำให้ได้ม้ามาใช้ประโยชน์
  13. ขายผ้า เอาหน้ารอด
    หมายถึง ยอมเสียทุกอย่างเพื่อรักษาชื่อเสียง
  14. ขายผ้าเอาหน้ารอด
    หมายถึง ยอมเสียสละของสำคัญของตนเพื่อรักษาชื่อเสียงตนเอาไว้
  15. ขายผ้าเอาหน้ารอด
    หมายถึง ยอมเสียสละแม้แต่ของจำเป็นที่ตนมีอยู่ เพื่อรักษาชื่อเสียงของตนไว้
  16. ขิงก็ราข่าก็แรง
    หมายถึง ต่างคนต่างแรง ไม่ยอมกัน เรื่องเล็กก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป เพราะทิฐิมานะ
  17. ขิงก็ราข่าก็แรง
    หมายถึง ต่างก็จัดจ้านพอๆกัน,ต่างก็มีอารมณ์ร้อนพอๆกัน,ต่างไม่ยอมลดละกัน
  18. ขี่ช้างจับตั๊กแตน
    หมายถึง การจัดทำสิ่งใดที่เป็นการโกลาหลโดยใช่เหตุหรือธุระที่ทำนั้นเป็นสิ่งเล็กน้อยไม่น่าจะต้องลงทุนหรือเตรียมการใหญ่โตเกินต้องการเหมือนคนลงทุนมากได้ผลตอบแทนน้อย
  19. ขี่ช้างจับตั๊กแตน
    หมายถึง ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไป
  20. ขี่ช้างจับตั๊กแตน
    หมายถึง การทำอะไรที่มากเกินตัว
  21. ขี้หมูราขี้หมาแห้ง
    หมายถึง ไม่มีสาระ,ไม่มีประโยชน์
  22. ขี้แพ้ชวนตี
    หมายถึง แพ้ตามกติกาแล้วยังไม่ยอมรับว่าแพ้จะเอาชนะด้วยกำลัง,แพ้แล้วพาล
  23. ขุดด้วยปาก ถากด้วยตา
    หมายถึง เหยียดหยามทั้งวาจา และสายตามองแบบดูถูก
  24. ขุนไม่ขึ้น
    หมายถึง เลี้ยงไม่เชื่องมีแต่เนรคุณ
  25. ขุนไม่เชื่อง
    หมายถึง เลี้ยงไม่เชื่องมีแต่เนรคุณ
  26. ข่มเขาโคขืน
    หมายถึง บังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามที่ตนต้องการเช่นจะจัดแจงแต่งตามอารมณ์ให้กินหญ้าเราเหมือนข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า
  27. ข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้า
    หมายถึง บังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามที่ตนต้องการ
  28. ข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า
    หมายถึง บังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามที่ใจเราปรารถนา
  29. ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง
    หมายถึง สิ่งที่ดูภายนอกแล้วดูสวยงามดูดี แต่แท้จริงแล้วภายในนั้นแย่
  30. ข้าวใหม่ปลามัน
    หมายถึง คู่แต่งงานใหม่
  31. ข้าเก่าเต่าเลี้ยง
    หมายถึง คนรับใช้ที่อยู่ด้วยกันมานาน, คนเก่าคนแก่
  32. เขียนเสือให้วัวกลัว
    หมายถึง ทำอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียขวัญหรือเกรงขาม
  33. เขียนเสือให้วัวกลัว
    หมายถึง ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียขวัญหรือเกรงขาม
  34. เขียนเสือให้วัวกลัว
    หมายถึง ขู่ให้กลัว
  35. เข็นครกขึ้นภูเขา
    หมายถึง ทำงานที่ยากเกินความสามารถ
  36. เข็นครกขึ้นภูเขา
    หมายถึง ทำงานที่ยากลำบากต้องใช้ความเพียรพยายามและอดทนมาก
  37. เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย
    หมายถึง พูดคุยถูกคอกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เข้ากันได้ดี
  38. เข้ารกเข้าพง
    หมายถึง พูดหรือทำไม่ถูกต้องกับเรื่องเพราะขาดความชำนาญในเรื่องนั้น
  39. ไข่ในหิน
    หมายถึง ของที่ต้องระมัดระวังทะนุถนอมและหวงอย่างยิ่ง ไม่ยอมให้ไครมาทำอันตรายเด็ดขาดหรือเข้ามาเกี่ยวข้องได้โดยง่าย
  40. ไข่ในหิน
    หมายถึง ของที่ต้องระมัดระวังทะนุถนอมอย่างยิ่ง

 แสดงความคิดเห็น